.
|
__________
ในการเลือกซื้อรถใช้แล้วสักคันหนึ่งมาใช้ เราควรตรวจสอบสภาพรถอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อ
เพื่อไม่ให้เสียใจและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ จึงขอเสนอวิธีการตรวจสอบรถยนต์ใช้แล้ว สำหรับผู้ที่กำลังจะ
ตัดสินใจซื้อ ท่านจะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากในการที่จะเลือกรถใช้ที่ยังสภาพดีสักคันมาใช้
__________
เทคนิค และคำแนะนำในการตรวจสภาพรถยนต์จะแบ่งเป็นเรื่องๆ ซึ่งได้แก่วิธีการ และขั้นตอนในการตรวจสภาพโดยดูจากภายในรถ ภายนอกขอตัวรถ ภายในห้องเครื่องยนต์ การทดลองขับ
การตรวจสภาพอุปกรณ์นิรภัย และการตั้งคำถามเจ้าของรถ ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่น่าจะต้องพึ่งพาช่างผู้ชำนาญงาน
การเตรียมความพร้อมสำหรับตรวจสภาพรถ
__________
ท่านควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมงด้วยเสื้อผ้าที่พร้อมจะลุย เพราะท่านอาจจะต้องก้มลงมอง
ใต้ท้องรถ ตลอดทั้งตรวจอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องยนต์ และอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้
1. ไฟฉายสำหรับส่งดูจุดต่างๆ ที่เห็นไม่ชัดเจน เช่น ในห้องเครื่องยนต์
2. แม่เหล็กขนาดเล็ก สำหรับตรวจสอบวัสดุชิ้นนั้นๆ ว่าเป็นเหล็กหรือพลาสติก
3. บล็อกหัวเทียน สำหรับถอดหัวเทียนเพื่อดูสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ จากสภาพของหัวเทียน
4. ผ้าขนาดกะทัดรัด สำหรับเช็ดคราบน้ำมันและคราบต่างๆ เพื่อที่จะได้เห็นการรั่วซึมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. สมุดบันทึกสำหรับจดบันทึกข้อมูลของรถแต่ละคันเพื่อทำการเปรียนเทียบ
6. เพื่อสนิทสักคนสำหรับปรึกษาหารือ รวมทั้งช่วยตรวจสภาพในขณะที่ท่านเปิดไฟ ช่วยเหยียบเบรค
__
ช่วยฟังเสียงในขณะที่ท่านเร่องเครื่องยนต์ ช่วยวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่ามีผลทางจิตวิทยา
__
ในการต่อรองเป็นอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดผู้ขายก็จะไม่มีความรู้สึกว่าไม่ง่ายในการที่จะโน้มน้าวให้ท่านซื้อได้ง่ายๆ
__________
การไปดูรถหรือเลือกซื้อรถควรทำในเวลากลางวัน ควรหลีกเลี่ยงไปดูรถในเวลากลางคืน หรือโพล้เพล้เด็ดขาด
เพราะความมืดสลัวนั้นจะซ่อนเร้นริ้วรอยต่างๆ ได้ดีทีเดียว
ขั้นตอนตรวจสภาพรถยนต์
__________
การตรวจสภาพภายในรถยนต์อย่างละเอียดถี่ถ้วนจะสามารถบอกเราได้ว่า เจ้าของเดิมใช้รถคันนี้อย่างไร หาก
ภายในถูกปล่อยปะละเลยนั้นย่อมหมายความว่าส่วนอื่นๆ ก็คงจะถูกปล่อยปะละเลยเช่นกัน สิ่งที่ควรได้รับการ
ตรวจสอบภายในมีดังต่อไปนี้
__________
เบาะที่นั่ง วัสดุหุ้มแผงประตู พรมปูพื้น เบาะที่นั่งจะบอกเราได้ว่ารถถูกใช้งานหนักเพียงใด ให้สังเกตุ
ที่ความอ่อนยวบ หรือฉีกขาด หากเบาะที่นั่งถูกหุ้มไว้ควรสำรวจความเสียหายใต้สิ่งที่ห่อหุ้มด้วย โดยปกติเบาะที่นั่งด้าน
คนขับจะอ่อนยวบมากที่สุด หากเบาะด้านคนนั่งเป็นเช่นเดียวกันแสดงว่า โดยปกติรถคันนั้นนั่ง 2 คน หากเบาะที่นั่งด้าน
หลังมีสภาพยับเยินมาก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า รถคันดังกล่าวอาจเคยเป็นรถแท็กซี่มาก่อน ในกรณีเบาะที่นั่งด้านหน้าและ
ด้านหลังอ่อนยวบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ารถคันดังกล่าวใช้ในครอบครัวใหญ่ นอกเหนือจากเบาะที่นั่งแล้วควรสำรวจ
วัสดุหุ้มแผงประตู และพรมปูพื้นและใต้พรมปูพื้นด้วยเช่นกัน
__________
ทดสอบคันบังคับต่างๆ เช่นลองเหยียบคันเร่ง คันเหยียบเบรก คันเหยียบเกียร์ รู้สึกว่าฝืดหรือหลวมเกินไปหรือไม่
มีเสียงปกติหรือไม่ ก้านปัดน้ำฝนทำงานทุกตำแหน่งหรือไม่ ก้านปรับไฟสูง-ต่ำทำงานปกติหรือไม่
__________
ตรวจสอบมาตรวัดระยะทาง โดยเฉลี่ยรถยนต์จะถูกใช้งานประมาณ 20,000-30,000 กิโลเมตรต่อปี
ให้เอาจำนวนปีที่ใช้งานของรถคูณด้วยระยะทางใช้งานเฉลี่ยเปรียบเทียบกับมาตรวัดระยะทาง หากตัวเลข
ต่ำผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่าตัวเลขอาจถูกหมุนกลับหรือตัวเลขหมุนขึ้นรอบที่สอง ทั้งนี้ควรเปรียบเทียบ
กับสภาพของรถยนต์และเครื่องยนต์ด้วย สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกไว้เสมอคือรถที่ใช้งานในเมืองอาจมีอัตราการสึกหรอ
ของเครื่องยนต์มากว่ารถที่ใช้งานทางไกล โดยอัตราประมาณ 3 ต่อ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะทางที่เท่ากัน
เนื่องจากรถที่ใช้งานในเมืองต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัด
__________
ตรวจการทำงานของอุปกรณ์และสัญญานเตือนต่างๆ บนแผงหน้าปัทม์ โดยเปิดสวิทช์กุญแจไปตำแหน่ง I ณ ตำแหน่ง
นี้นาฬิกา วิทยุ-เทป พร้อมที่จะทำงาน บิดสวิทช์ต่อไปตำแหน่ง II ที่ฉีดน้ำล้างกระจกก้านปัดน้ำฝน ไล่ฝ้ากระจกหลัง
พัดลมระบายความเย็นในรถยนต์ พร้อมที่จะทำงาน สัญญานไฟเตือนต่างๆ สว่างค้าง ยกเว้นสัญญานไฟเตือน
รูปเครื่องยนต์ ABS, SRS จะสว่างชั่งครู่แล้วดับ บิดสวิช์กุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่อเครื่องยนต์ติดสัญญานไฟ
ต่างๆ จะดับ ยกเว้นสัญญานไฟบอกตำแหน่งเกียร์แบบอัตโนมัติ
__________
ตรวจสอบภายในลิ้นชักเก็บของ หาดูว่าคู่มือประจำรถและเอกสารสำคัญต่างๆ เช่นประกันภัย คู่มือจดทะเบียน
อยู่หรือไม่เงื่อนไขการรับประกันยาวนานแค่ไหน หมดระยะเวลาประกันหรือยัง หากเราไม่ใช่ผู้ซื้อมือที่สองจริงๆ
ก็อาจจะลองเก็บข้อมูลไปสอบถามเจ้าของรถมือแรกดูก็ได้ และหากตรวจสอบได้ว่าเป็นรถที่มาจากการเลหลัง
หรือจากการประมูล (เนื่องจากถูกยึด) ให้พึงระลึกเอาไว้ว่าเหตุใดเจ้าของรถมือแรกถึงปล่อยให้ถูกยึด ที่สำคัญ
ต้องตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถ และหมายเลขเครื่องยนต์ว่าตรงกับในเอกสารประจำรถหรือไม่ หากไม่ อาจ
แสดงว่าเป็นรถขโมยมา หรือมาจากการประกอบรถสองคันเข้าด้วยกันก็ได้
__________
พิสูจน์กลิ่นภายในรถยนต์มีกลิ่นดินโคลน หรือกลิ่นสาบอาจหมายถึงมีรอยรั่วผุของห้องโดยสาร หรือที่แย่กว่านั้น
ก็อาจเคยจมน้ำมาก่อน ให้เลิกดูใต้พรมว่าบริเวณนั้นเป็นสนิมหรือไม่ตลอดทั้งควรดูบริเวณใต้เบาะที่นั่งด้วย
__________
ตรวจสอบประตูและหน้าต่างกระจกทุกบาน ตรวจดูว่าประตูแต่ละบานสึกหรอหรือผ่านการใช้งานหนักมาแค่ไหน
ขอบบนประตูด้านคนขับซึ่งมักจะเป็นที่พักท้าวแขนคนขับนั้น สีซีดหรือสึกไปแค่ไหน อย่าลืมตรวจดูมือจับด้านใน
ว่าผ่านการใช้งานมาแค่ไหน ตัวเลขกิโลบนหน้าปัทม์สัมพันธ์กับสภาพของรถหรือไม่ ถ้าหากต่ำผิดปกติอาจหมายถึง
รถถูกใช้มาจนตัวเลขกิโลเมตรครบรอบมาแล้ว หรือมีการแก้ไขเลขวัดระยะทางมาก่อนแล้วก็ได้ ทดสอบหน้าต่าง
ทุกบานไม่ว่ากระจกหน้าต่างจะเปิด/ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าหรือไม่กระตาม ให้ทดลองเปิดประตูทุกบานว่าเปิด/ปิด
คล่องหรือไม่ มีบานใดค้างไม่สามารถเปิด/ปิดได้หรือไม่ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบว่าที่นั่งสามารถเลื่อนเดินหน้า
ถอยหลังได้อย่างที่ควร
__________
ตรวจสอบรอบหยดน้ำจากวัสดุบุใต้หลังคา หากมีรอยคราบน้ำตามวัสดุบุใต้หลังคา ให้สันนิศฐษฐานไว้ก่อนว่า
รถคันดังกล่าวมีการรั่วซึมของน้ำจากหลังคา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลังคาผุเนื่องจากสนิม
__________
เอาละ..ทีนี้เรามาตรวจสภาพภายนอกตัวรถกันบ้าง ดูรอบๆ ตัวรถ แล้วก้มลงดูว่าตัวรถขนานกับพื้นถนน
ในระยะที่เท่ากันหรือไม่..หรือสูงต่ำไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือเอียงไปข้างหนึ่ง นั่นแสดว่าช่วงล่างมีปัญหาแน่นอน
เดินตรวจสอบรอบๆ ตัวรถในที่สว่างๆ สังเกตุรอบบุบ ระยะห่างของอุปกรณ์ต่างๆ ไฟหน้า ไฟหลัง กันชนหน้า
กันชนหลัง ระยะห่างของอุปกรณ์เท่ากันหรือไม่ ถ้าไม่เท่ากันให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ารถคันดังกล่าวได้รับอุบัติเหตุ
มาแล้ว และมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าว
__________
ขั้นต่อมาสังเกตุดูละอองสี ว่ามีละอองสีติดที่หนึ่งที่ไดหรือไม่ ส่วนมากแล้วรถที่ทำสีใหม่ จะมีละอองสีติดอยู่
เช่นใต้กันชนหน้า กันชนหลัง
ดูรางน้ำฝน สังเกตุการผุกร่อน ดูช่องไฟระหว่างขอบประตู หน้าต่างต้องมีความสม่ำเสมอ ไม่ชิด ไม่ห่างไปข้างใด
ข้างหนึ่ง
__________
ให้สังเกตุไฟหน้า-ไฟท้าย ไฟเลี้ยง ไฟถอย ว่ามีความสว่างเท่ากันหรือไม่ ไฟซ้ายไฟขวาเก่าใหม่ต้องเท่ากันหรือไม่
หัวนอตฝาครอบต้องไม่เยิน เปิดฝากระโปงหน้ารถ ให้สังเกตุดูว่ามีรอยเชื่อมหรือรอยอ๊อกหรือไม่
ดูหม้อน้ำ ถ้าเกิดการชนมา หม้อน้ำจะใหม่ เข็มขัดหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำต้องเป็นของเก่า ดูสายพานไดชาจน์-แอร์
เบ้าหัวเทียน ดูตรงเบ้าซอฟเบอร์ โช๊คอัพ ถ้ามีการทำสีหรือรอยซ่อม จะต้องมีการชนมาอย่างรุนแรง
ดูว่ามีลอยหยดน้ำมันตรงที่รถจอดหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนประเก็นใหม่ อาจต้องเสียเงินมากพอสมควร
จะไม่คุ้มกับคุณที่จะซื้อรถคันนั้นไป
__________
ปิดฝากระโปงหน้า แล้วลองดึงสลักเปิดฝากระโปรง ว่ามีการดีดตัวดีหรือไม่ ถ้าไม่มีการดีดตัวของฝากระโปง
ที่ดี รถคันนั้นผ่านการซ่อมมาอย่างแน่อน
__________
ตรวจสอบรอบตัวรถให้ละเอียดโดยการจดบันทึก ว่ามีรอบบุบ รอยขีด หรือรอยสนิมหรือไม่ สังเกตุสีของรถยนต์
ว่าลักษณะสีกลมกลืนกันหรือไม่ ถ้าลักษณะของสีรถไม่มีความกลมกลืนกัน หรือเนื้อสีของตัวถังไม่เหมือนกัน
ให้สันนิศฐานไว่าก่อนว่า รถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุและทำสีรถใหม่
__________
ตรวจสอบโช๊คอัพ โดยกดที่มุมรถว่ามีการยุบของโช๊คอัพ แล้วค่อยๆเด้งคืนตัวของโช็คอัพหรือไม่ ถ้ากดลงไปแล้ว
โช๊คอัพเด้งขี้นทันที ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า โช๊คของรถคันดังกล่าวเริ่มเสียแล้ว
__________
ตรวจสอบช่วงล่างด้วยการก้มลงไปดูใต้ท้องรถ สังเกตุแชสซี ว่ามีรอยต่อเติม หรือรอยเชื่อมต่อของเหล็กหรือเปล่า
ถ้ามีให้สันนนิษฐานไว้ก่อนว่ารถยนต์คันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว
__________
ตรวจสอบใต้ท้องรถให้ละเอียด สังเกตุว่ามีคราบน้ำมัน หรือรอยรั่วซึม หรือไหลเยิ้มของน้ำมันในส่วนต่างๆ หรือเปล่า
ถ้ามี ชิ้นส่วนนั้นย่อมเกิดการชำรุด ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นๆ
__________
การเลือกซื้อรถยนต์มือสอง เราไม่ต้องไปคำนึงถึงเรื่องเครื่องยนต์ให้มากนัก เพราะยังไงมันก็คงต้องเป็นไปตามสภาพ
แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากคือเรื่องสภาพของตัวถัง และช่วงล่าง เพราะปัจจุบันนี้การยกเครื่องใหม่ หรือการเปลี่ยน
เครื่องยนต์ใหม่ราคาไม่สูงนัก และเครื่องรถยนต์มือสองราคาไม่แพงนักก็สามารถไปหาดูได้แถวเซียงกง แต่การไปเลือก
ซื้อเครื่องยนต์แถวเซียงกงอย่าแต่ตัวหล่อไปนะเดี๋ยวจะโดนฟันเลือดสาด..ควรแต่งตัวมอมๆ ให้ดูเหมือนช่างซักหน่อย
หรือไม่ก็ใส่กางเกงขาสั้นไปเลย รับรองท่านจะได้ของดีและราคาถูกด้วย ต่างกับการซ่องตัวถังหรือทำสีใหม่ท่านจะต้อง
ใช้งบประมาณเกือบแสน ฉะนั้นควรดูสภาพรถดีกว่าเสียงบประมาณน้อยกว่าอย่าใส่ใจกับเรื่องเครื่องยนต์มากนัก แต่สภาพรถ
นี่ซิจำเป็นมากควรเลือกที่สภาพดีๆ มันจะได้ใช้งานได้นานๆ
__________
ฮั่นแน่..เกือบลืมไป...ยังไง ก็ต้องลองขับก่อนนะครับ..เพื่อดูสมรรถภาพของรถยนต์ว่าเป็นไปตามคำสาธยาย
ของผู้ขายหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมาช้ำใจภายหลัง..ฮิฮิฮิ.... อ้ออีกอย่างหนึ่ง ดูตัวเลขเรือนไมล์วัดระยะทางว่ามาก-น้อย
ผิดปกติหรือไม่ ให้สูตรคำนวณดังนี้ครับ 1 ปี เท่ากับ 25,000 Km.
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรถยนต์
__________
Turbo Flow เรื่องเพิ่มอัตรากำลังให้รถยนต์ และการประหยัดน้ำมันน่าสนใจมา
__________
คำทำนายนิสัยจากสีของรถ สีของรถยนต์สามารถบอกนิสัยใจคอของบุคคลที่ขับขี่รถยนต์
คันนั้นได้ ลองเข้ามาอ่านดูซิคะ แล้วจะรู้ว่าท่านนิสับยังไง..จุ๊จุ๊...
__________
AUTO รวบรวมเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ไว้มากมาย
|